บันทึกการเดินทาง ณ.โรงเรียนบ้านแม่โขง

บันทึกการเดินทาง ณ.โรงเรียนบ้านแม่โขง ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภออมก๋อย ประมาณ 57 กิโลเมตร ห่างตัวจังหวัดเชียงใหม่
ประมาณ 235 กิโลเมตร ไม่มีรถยนต์โดยสารประจำทาง การเดินทางต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ
รถจักรยานยนต์หรือเดินเท้า สภาพเส้นทางเป็นถนนลูกรัง สองข้างทางจะประกอบไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อนและลำห้วย ในช่วงฤดูฝนใช้ระยะเวลาเดินทางอย่างน้อย 7 ชั่วโมง และในช่วงฤดูร้อนใช้ระยะเวลาในการเดินทาง 4 ชั่วโมง  จากตัวอำเภอ อมก๋อย
มี นายชัยสิทธิ์ ลือโขง ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน

 บันทึก การเดินทาง  ระหว่างวันที่ 27-30 ธันวาคม 2553  กับทีมตัวแทนเดินทางไปมอบของ ที่โรงเรียนบ้านแม่โขง  ที่พวกเราได้จัดเตรียมให้ได้แก่
1.เสื้อกันหนาว  150  ชุด 
2.รองเท้านักเรียนผ้าใบ สีดำ จำนวน 148 คู่   
3.ถุงเท้า   296  คู่
4..กล่องใส่ข้าว  158 อัน
5.กระติกน้ำ  156  ใบ
6.อุปกรณ์กีฬา  หลายรายการ
7.ถุงแขน  จำนวน 450  คู่
8.ถาดหลุม ใส่อาหาร สำหรับอาหารกลางวันที่โรงเรียน
9.ขนมปัง & นมอัดเม็ด
10.ยาสามัญ ประจำโรงเรียน
11.หนังสือเข้า หัองสมุด
12.เป้ใส่หนังสือ+ดินสอ 6 แท่ง+ยางลบ+กบเหลาดินสอ+สมุด จำนวน 150 ชุด
13.ปากกา  จำนวน  144  ด้าม
14.เสื้อผ้ามือสอง
15.โครงการสมทบทุนสร้างโรงอาหารหลังใหม่ทดแทนของเดิม ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไร สังกะสี จะปลิวตกลงมา หรือ ถล่มลงมาได้


ทีมตัวแทน มอบสิ่งของ   พวกเราซึ่งประกอบด้วยพี่ต๋อย คุณแป๊ะ  แคท  น้องพา  น้องปั้น และคุณแม่ จำนวน 6 ชีวิต  ใช้เวลาในการเดินทางจากกรุงเทพ  ไปยังโรงเรียนบ้านแม่โขง  เกือบ 20 ชั่วโมง   ถึงโรงเรียน ประมาณ 23.35  น. เกือบเที่ยงคืนของวันที่ 27 ธค 53  ใช้เวลาเดินทางค่อนข้างยาวนาน  อากาศ เริ่มหนาวเย็น  อุณหภูมิลดต่ำลงเรื่อยๆ ในเวลาค่ำคืน  ประมาณ  6-8 องศา   ระหว่างการเดินทาง ขึ้นไปยังโรงเรียนบ้านแม่โขง  เส้นทางเดินทางค่อนข้างทุรกันดาร สุดๆ  ถนน ขุรขระ  เป็นหลุม  บางครั้งมีก้อนหิน ใหญ่ หล่นลงมาที่ถนน   ระยะทางเพียง 57 กิโลเมตร จากตัวอำเภอ อมก๋อยเพื่อไปยังโรงเรียนบ้านแม่โขง  พวกเราใช้เวลาในการเดินทางถึงโรงเรียน บ้านแม่โขง  เกือบ 8 ชั่วโมง  จาก ตัวอำเภอ   ห้องน้ำไม่มีเข้า  พวกผู้ชาย ใช้วิธียิงกระต่าย  สำหรับผู้หญิง  ก็ไปเก็บดอกไม้กันข้างถนน     มีทั้งวัว  ควาย หมูป่า  ผ่านถนนต้องรอ ให้เจ้าถิ่นเดินผ่านไปก่อน 



พวกเราเดินทางไปพร้อมกับคณะนักศึกษา 15 คนที่เตรียมไปก่อสร้างโรงอาหาร มีรถขับตามกันไป 5 คัน  ปรากฏว่า รถ 2 คัน  เกิดเสีย ขับต่อไม่ได้เพราะ เบรกไหม้ เนื่องจากเส้นทาง ค่อนข้างหฤโหดมากๆ  เพราะเป็นทางขึ้นเขา  ลงเขา เป็นระยะๆ   บางขณะข้างทางก็เป็นเหว  ดังนั้น ต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถเป็นอย่างมาก  คนขับรถ ต้องมีสติตลอดเวลา และมีฝีมือมากพอสมควร เพราะถ้าพลาด อาจประสบอุบัติเหตุได้   แต่ธรรมชาติข้างทางสวยงามมากๆ   ต้นไม้ยังอุดมสมบูรณ์   กว่าจะเดินทางถึงโรงเรียนบ้านแม่โขง  จึงทำให้พวกเราเข้าใจแล้วว่าทำไม ระยะทางเพียง 57 กม จากตัวอำเภอ เชิงดอย  ไปยังโรงเรียน บ้านแม่โขง ซึ่งอยู่บนดอย  ต้องใช้เวลาเดินทางมาก ถึงขณะนี้  ทำให้เรานึกขอบคุณ คุณครู บนดอยจริงๆ  ที่ท่านเหล่านั้นได้มีการเสียสละ และอุทิศตน เพื่อให้ เด็กๆ  ได้มีโอกาสทางการศึกษา  ให้เด็กได้ อ่านออกเขียนได้  ไม่ถูกใครหลอกได้ง่าย


 เมื่อพวกเราไปถึงโรงเรียนบ้านแม่โขง  เราพบว่า โรงเรียน แห่งนี้ ยังต้องการความช่วยเหลืออีกหลายด้านทีเดียว  โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง  อาคารเรียน ที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา 

                                                                  
     
นี่คือสภาพทั่วไปของโรงเรียนบ้านแม่โขง  หมอกลงจัด  อากาศหนาวเย็น  บรรยากาศโดยรอบ สวยงาม น่าเรียน

    

สภาพโดยทั่วไป  ให้พวกเราลองสังเกตเพดานด้านบน   หลังจากที่ทีมงานของเราไปสำรวจ ด้วยตา  เราคิดว่า   เมื่อ ถึงหน้าฝน ในปีนี้  คิดว่า โรงเรียนหลังนี้  มันคงพร้อมจะถล่มลงมา บางส่วนของอาคารเรียนอย่างแน่นอน   ดังนั้น จึงเป็น ความจำเป็นอย่างเร่งด่วนมาก  ที่จะต้องรีบ จัดการรื้อและ สร้างใหม่เพราะถ้าซ่อมแซม  มันคงเอาไม่อยู่แน่ๆ  เพราะอาคารหลังนี้ 30 ปีแล้ว  ไม้ค่อนข้างผุ กร่อน อย่างมาก  สร้างใหม่ง่ายกว่า

อาคารหลังนี้ ได้ก่อสร้างมาเป็นระยะเวลายาวนาน 30 ปี ตั้งแต่ปี 2522  เท่าที่เราสังเกต และ จากการพูดคุยกับท่าน ผอ . ชัยสิทธิ์  ลือโขง  ท่านต้องการก่อสร้างใหม่ เพราะ ไม่รู้ว่าเมื่อไร จะถล่มลงมา ทับ เด็กๆ ขณะทำการเรียนการสอน บางส่วนของโรงเรียน  ต้องทำการปิด เพราะมันทรุดโทรม ลงมาก อาจจะถล่มลงมาได้  คุณครูเล่าให้เราฟังว่า บางครั้ง ครูที่ทำการสอน ก็ตกร่อง เพราะไม้ที่พื้นมันสึกลงไปมาก  ถึงกลับแซวเด็กๆ  ว่าอย่าไอแรง นะ  เพราะไม่รู้ว่าจะถล่มลงมาเมือไร  ดังนั้นเรามองว่า สิ่งนี้คือความจำเป็นเร่งด่วน ของโรงเรียนบ้านแม่โขง  ที่พวกเรา สมควรจะให้ความช่วยเหลือ  เพราะการที่จะรองบประมาณ จากรัฐบาล  ช่างยากยิ่งเสียเหลือเกิน  กว่าจะได้งบมาก่อสร้าง พวกเราทีมงาน เล็งเห็น ถึงความจำเป็นอย่างเร่งด่วนตรงนี้  อย่างมาก  จึงอยากคิดทำการ  สร้างห้องเรียนหลังใหม่ เพื่อ มอบให้กับโรงเรียนบ้านแม่โขง  เพื่อให้เด็กๆ ได้มีสมาธิในการเรียน  โดยไม่ต้องหวั่นเกรง เมื่อไร โรงเรียนจะถล่มลงมาทับเด็กๆ ได้  
  
อีก ความจำเป็นที่เราเห็นคือ   ยาโรงเรียน   ยาสามัญประจำโรงเรียน  เนื่องจากเส้นทางทุรกันดารสุดๆ  สถานีอนามัย อยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ เกือบ ชั่วโมง   การมียาสามัญติดไว้ที่โรงเรียนคือความจำเป็นอย่างมาก  โรงเรียน เป็น ศูนย์รวมของชาวบ้าน  เมื่อชาวบ้านหรือเด็กๆ เจ็บป่วย จะมาขอยากับคุณครูที่โรงเรียนก่อน เนื่องจากอยู่ใกล้กว่าสถานีอนามัยมาก  ยาสามัญ ที่พวกเราจัดเตรียมได้แก่ ชุดยาล้างแผล ทำแผล  ยาลดไข้ แก้ปวด ยาแก้โรคกระเพาะ  ยาฆ่าพยาธิ   ยาแก้ท้องเสีย  เกลือแร่ เมื่อมีอาการ ท้องเสีย หรือสูญเสียน้ำ    

ครูต้น เล่าให้เราฟังว่า เนื่องจาก เด็กๆไม่มีรองเท้าใส่กัน บางครั้งเหยียบตะปู เศษแก้ว  หรือบางครั้ง เตะฟุตบอล  แล้วเท้าเปิด เป็นแผล บางครั้งหัวแตก   ต้องนำส่งสถานีอนามัยกัน  ซึ่งอยู่ห่างกันเกือบ ชั่วโมง   ดังนั้นการมียาสามัญประจำโรงเรียนคือสิ่งจำเป็น  ดังนั้นพวกเราจะทำโครงการยาโรงเรียนควบคู่กันไป ด้วย

สิ่งของที่พวกเราได้ร่วมกันจัดเตรียมไปมอบให้ในครั้งนี้ในวันที่ 27-28 ธ.ค. 53 นี้ คือสิ่งที่โรงเรียนขาดแคลนและอยากได้อย่างมาก  ทางท่านผอ. คาดไม่ถึง และรู้สึกเกรงใจและขอบคุณ กับ พวกเราเป็นอย่างมาก  ว่าพวกเราจะเตรียมไปให้เด็กๆของท่านได้อย่างมากมายแบบนี้  

เช่น โครงการกล่องข้าว  เพราะเด็กๆ  ต้องนำข้าวจากบ้านมากินที่โรงเรียน เด็กๆ  ได้ ใส่ข้าวไว้ในซอง มาม่า เก่าๆ  ที่ล้างแล้วล้างอีก จนตัวหนังสือ เลือนหายไป  บางคนใช้ ถุงใส่รองเท้ามาใส่ข้าว  ดังนั้น ตอนนี้ เด็กๆ  ได้มีกล่องใส่ข้าวมาที่โรงเรียนแล้ว





เราสังเกตเห็นความดีใจอย่างมาก ที่ เปล่งออกจาก สายตาของเด็กๆ เหล่านั้น เด็กๆมีความสุขมาก และ ดีใจอย่างมากที่พวกเราได้ นึกถึงพวกเขา  และได้ใช้ประโยชน์ โดยตรง  ดังนั้น ทางทีมงาน ขอขอบคูณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดทำโครงการ จัดหาสิ่งของมามอบให้เด็ก ที่ด้อยโอกาส ในถิ่นทุรกันดาร สุดๆ  ที่ความช่วยเหลือยังเข้าไปไม่ถึง ด้วยเพราะ ระยะทาง และ เส้นทางที่ ยากลำบากต่อการได้รับ ความช่วยเหลือ  

คุณค่าทางจิตใจ  ที่หาซื้อด้วยเงินไม่ได้    ขอให้ทุกท่าน ได้ อิ่มใจ และสุขใจ ร่วมกันที่พวกเราได้ ร่วม กันทำโครงการนี้จนสำเร็จลุล่วง  

ขอบคุณกับโครงการดีๆแบบนี้ที่พวกเรา ร่วมด้วยช่วยกัน คนละเล็กละน้อย ตามกำลังของแต่ละคน    แต่นำมาสู่โครงการที่ยิ่งใหญ่และมีค่ามาก สำหรับ เด็กเหล่านั้น  และกำลังใจอันยิ่งใหญ่ที่ครูบนดอย  ได้สร้างขึ้นมา 

  ท้ายที่สุดนี้ขอขอบคุณ เพื่อนๆทุกท่านที่มีส่วนร่วมช่วยกันคนละเล็กละน้อย รวมทั้ง พี่ทิพย์ เจ้าของโรงงานทำถุงแขน  คุณวีเจ้าของโรงงานทำเสื้อกันหนาว  คุณหยูเจ้าของโรงงานผลิตรองเท้า ซึ่งทำสินค้าคุณภาพดี แต่ให้เราได้ในราคาโรงงานและ ถูก และร่วมทำบุญกับพวกเรา  พี่ตุ๊กตา คุณสุทธิรักษ์ อยู่วิทยา เจ้าของ บริษัทเครื่องดื่มกระทิงแดง ที่สนับสนุน อุปกรณ์กีฬา และ เสื้อ  เพื่อนๆของพี่ต๋อย ทุกท่านที่ ร่วมด้วยช่วยกัน  และท้ายที่สุดต้องขอขอบคุณ พี่ต๋อย เป็นอย่างมากที่ช่วยเหลือในทุกๆด้าน  ทั้งแรงกายและแรงใจ   และคุณแป๊ะ  พระเอกนักขับรถ ฝีมือเยี่ยม ที่ทำให้โครงการเราเสร็จสิ้นสมบูรณ์แบบ พร้อมทั้ง รักษาชีวิต ของตัวแทนทีมงาน ที่ไปส่งมอบสิ่งของ  กลับมาได้อย่างปลอดภัย  

ขอบคุณมากค่ะ แล้วพบโครงการดีๆแบบนี้อีกอย่างต่อเนื่อง
แคทและทีมงาน