โครงการรองเท้าเพื่อน้อง
สำหรับนักเรียน โรงเรียนบนดอย อมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่
โครงการนี้เกิดขึ้น จากการที่ทีมงานของเราได้เคยเดินทางไปบนดอย อมก๋อย เพื่อนำสิ่งของไปมอบให้กับโรงเรียนบ้านแม่โขง เมื่อช่วงวันที่ 27-30 ธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งได้พบเห็นว่า ยัง มีโรงเรียน ประมาณ 7 โรงเรียน ที่ด้อยพัฒนามากๆ อยู่บนดอยแห่งนั้น ที่ว่าด้อยพัฒนา เพราะ เนื่องจาก สภาพโรงเรียน อยู่ห่างไกลจากความช่วยเหลือทั้งภาครัฐและเอกชน เนื่องจากสภาพการเดินทางที่ยากต่อการไปถึง ประกอบกับ ไม่ค่อยมีใครทราบมากนัก ว่ายังมีโรงเรียน อยู่บนดอยแห่งนั้น ความช่วยเหลือจากภาคเอกชนเข้าไปบ้างปะปลาย แต่ก็ยังไม่ทั่วถึง เพราะการเดินทางที่ยากลำบากมากๆ โรงเรียนที่อยู่บนดอย ไม่มีรถประจำทางไปถึงเลย จะไปถึงที่โรงเรียนได้ต้องใช้รถ 4 wd และมอเตอร์ไซด์ เท่านั้น ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากเชิงดอย จากตัวอำเภอ อมก๋อย ช่วงหน้าแล้ง4 ชั่วโมง หน้าฝนประมาณ 8 ชั่วโมง ระยะทางแค่ 57 กิโลเมตรเท่านั้น คิดดูว่าสภาพถนน นั้นแย่สุดๆ
ดังรูปภาพข้างบน ที่ทีมงานของเราถ่ายมาระหว่างการเดินทาง จะเห็นได้ว่า ถนน เป็นสภาพแบบนี้ จึงเข้าใจเลยว่า ทำไม ระยะทางเพียง 57 กม เท่านั้น ตอนที่พวกเราได้ไป ใช้เวลาเดินทางกว่า 8 ชั่วโมง
สิ่งที่ทีมงานเราได้สังเกตเห็นคือ เด็กๆบางคนไม่มีรองเท้าใส่ บางคนมีรองเท้าข้างเดียว และการเดินทางจากบ้านมาโรงเรียน ต้องเดินผ่านริม
ธาร ผ่านโขดหิน ดังนั้น จึงเป็นที่มาของโครงการรองเท้าผ้าใบเพื่อน้อง
จึงเป็นที่มาของการจัดทำโครงการรองเท้าผ้าใบเพื่อน้อง
โดยเราจะจัด หา รองเท้าผ้าใบสีดำ ให้เด็กๆ ทุกคนได้มีใส่กัน เพื่อไว้ใช้เป็นรองเท้านักเรียน รองเท้ากันหินและ ใช้ในชีวิตประจำวันก็ได้ สำหรับเด็กๆ ทั้ง 7 โรงเรียน ยอดดอยพัฒนา แต่เราจะขอเรียกว่า 7 โรงเรียน ยอดด้อยพัฒนา ได้แก่ เด็กๆ โรงเรียน ดังต่อไปนี้
1.โรงเรียนบ้านนาเกียน 293 คน
2.โรงเรียนบ้านแม่สะเต 122 คน
3.โรงเรียนบ้านอูตูม 211 คน
4.โรงเรียนบ้านผีปานเหนือ 112 คน
5.โรงเรียนบ้านใบหนา 121 คน
6.โรงเรียนบ้านห่างหลวง 149 คน
7.โรงเรียนบ้านแม่โขง 144 คน ***เนื่องจากโรงเรียนนี้เราเคยทำการส่งมอบแล้ว ดังนั้น เราจะคิดทำอีกประมาณ 30 คู่ สำหรับเด็ก นักเรียนที่จะเข้ามาเรียนใหม่
รวมเป็นเด็กเป้าหมายที่เราจะจัดทำโครงการรองเท้า อยู่ประมาณ 1,000 คน โดยรองเท้าผ้าใบสีดำ ซึ่งเราสามารถจัดทำและสั่งผลิต จากเจ้าของโรงงานผู้ใจดี ที่จะร่วมกันทำบุญ โดยคุณยู้ เจ้าของโรงงานรองเท้า จะคิดใน ราคา พิเศษเพียงคู่ละ 65 บาท (จากปกติเราเคยซื้อรองเท้าผ้าใบให้ลูกของเราจะตกคู่ละ 180-200 บาท)
ดังนั้นยอดเงินสำหรับโครงการรองเท้าเพื่อน้อง คือ 65 บาท * 1,000 คู่ = 65,000 บาท
โครงการยาสามัญ
ประจำโรงเรียน 7 ยอดด้อยพัฒนา
เหตุการณ์นี้เกิดประมาณ 20 ปีที่แล้ว ที่เราเคยออกค่ายอาสา แต่เรายังจำฝังใจ ต่อเนื่องจากการที่เราเคยประสบปัญหาแตะก้อนหิน แล้วไม่มียาล้างแผล หลัง 4 วันผ่านไปที่เราเคย ออกค่ายอาสา นิ้วเท้าเราบวมมาก และ ปวดมาก เดินแทบไม่ไหว เพียงเพราะไม่มียาล้างแผลในครั้งแรก เกือบต้องโดนตัดนิ้ว คุณหมอบอกว่า ถ้าเราปล่อยทิ้งไว้นานกว่านี้ อาจต้องโดนตัดนิ้วได้ เพราะแผลเกิดติดเชื้อ จึงเป็นที่มาของโครงการยาสามัญประจำโรงเรียน
เราอยากจัดทำโครงการยาสามัญประจำโรงเรียน ซึ่งเป็นยา พื้นฐานที่ทุกโรงเรียนควรจะมีไว้ติดประจำโรงเรียน เนื่องจากบนดอยมีสถานีอนามัย อยู่ 1 แห่ง แต่ละโรงเรียนจะเดินทางไปถึงสถานีอนามัย ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับระยะทางห่างของแต่ละโรงเรียน
คุณครูที่โรงเรียนบ้านแม่โขงเคยเล่าให้เราฟังว่า เด็กๆไม่มีรองเท้า บางครั้งเล่นฟุตบอล แผลเปิด บางครั้ง เหยียบก้อนหินหรือตะปู มาหาคุณครู คุณครู ต้องรีบนำเด็กซ้อนมอเตอร์ไซด์ เพื่อไปทำแผล ใช้เวลาเดินทางร่วมชั่วโมง ดังนั้น ถ้ามียาสามัญติดประจำโรงเรียน จะเป็นการช่วย ได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้น ยาสามัญที่เราจะจัดเตรียมได้แก่
1.แอลกอฮอล์ น้ำเกลือล้างแผล ยาใส่แผลสด ปลาสเตอร์ สำลี
2.ยาลดไข้ สำหรับเด็กเล็กและเด็กโต
3.การแก้ปวดหัว
4.ยาแก้ปวดท้อง
5.ยาถ่ายพยาธิ
6.น้ำเกลือ
7.ยาแก้อาหารเป็นพิษ ท้องเสีย
โดยยาตามรายการนี้ เราจะทำการปรึกษา น้องสาวเราที่เป็นแพทย์รักษาเด็ก แพทย์หญิง กรพินธ์ แนะนำยาและยี่ห้อที่ควรจะซื้อไป(ไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆแอบแฝงกับยี่ห้อยาที่จะแนะนำให้โรงเรียน) เป็นกลุ่มยาสามัญ ส่วนยาอื่นๆ น้องแนะนำว่าไม่ควรซื้อไปเพราะอาจเกิดการ แพ้ได้ ให้นำส่งสถานีอนามัยหรือโรงพยาบาลต่อไป
งบประมาณ ที่เราประมาณการ คือ 1500 บาท/โรงเรียน มี 7 โรงเรียน
งบประมาณ ที่ต้องการคือ 1500 บาท * 7 = 10,500 บาท