โครงการ ครูอาสาบนดอย ครั้งหนึ่งในชีวิต
ณ.โรงเรียนบ้านแม่โขง
อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่
ระหว่างวันที่ 13-17 เมษายน 2554
โครงการครูอาสาบนดอย เกิดขึ้นจากการที่พวกเรา จะไป ตรวจสอบอาคารเรียน โรงเรียนบ้านแม่โขง ที่พวกเราร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการสร้างอาคารเรียน หลังใหม่ ทดแทนหลังเดิมที่ ใกล้ถล่มลงมา พวกเราจะรวมกันเป็นหนึ่งในร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการสร้างอาคาร 2 หลัง ได้แก่
อาคารเรียนของชั้น ป1-3 งบประมาณ = 250,000 บาท
อาคารเรียนของชั้น ป4-6+ห้องวิทยาศาสตร์ งบประมาณ = 500,000 บาท
ทีมงานของพวกเรา บางคน ได้เคยไปร่วมสมทบทุนก่อสร้างโรงอาหารหลังใหม่ ทดแทนหลังเดิมให้กับโรงเรียนบ้านแม่โขงแล้วในช่วงวันที่ 27-30 ธันวาคม 2553 แต่ทีมงานเห็นว่า ถ้าเราไม่ช่วยกัน ในการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ทดแทนหลังเดิม กลัวว่าจะเกิดเหตุ อาคารทรุดตัวถล่มลงมา ทับ เด็กๆ และคุณครูขณะทำการเรียนการสอนได้ ทำให้ทีมงานไม่สามารถทนเฉยและปล่อยไปได้ จึงได้เกิดโครงการก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ทดแทนอาคารเดิม
และกะประมาณว่า อาคารเรียนหลังที่ 1 ที่พวกเราจะทำการสมทบทุนสร้างกันนั้น จะแล้วเสร็จประมาณ เดือนเมษายน 2554 ดังนั้น จึง เป็นโอกาสอันดีในการที่จะไปตรวจสอบ ความก้าวหน้าของโครงการ และจะไปแต่งแต้มเติมฝัน สร้างสรรค์จินตนาการให้กับเด็กๆบนดอย โดยจะไปทำการระบายผนังของอาคารเรียนหลังใหม่ เป็นรูปน้ำทะเล เพื่อสร้างสรรค์จินตนาการให้เด็กๆ ได้รู้จักทะเล เพราะเด็กๆ บนดอย ไม่เคยเห็นทะเล พร้อมทั้งจะส่งมอบสิ่งของอุปโภค บริโภคที่จำเป็นกับเด็กๆ อีก 6 โรงเรียนที่อยู่บนดอย อมก๋อย และไหนๆ ทีมงานจะต้องเดินทางไปอยู่แล้ว จึงเกิดเป็น
“โครงการ ครูอาสาบนดอย ครั้งหนึ่งในชีวิต”
ระหว่างวันที่ 13-17 เมษายน 2554
ดังนั้น เราจะจัดทำโครงการครูอาสาบนดอย เพื่อเชิญชวนเพื่อนๆ ไป ร่วมออกค่ายอาสา กัน พร้อมทั้งเป็นประจักษ์พยานในการส่งมอบสิ่งของที่พวกเราร่วมกันจัดทำโครงการต่างๆขึ้นมา เช่น โครงการรองเท้าเพื่อน้อง ยาสามัญประจำโรงเรียน กล่องข้าวเพื่อน้อง มอบอุปกรณ์การศึกษา สมุด + ดินสอ+ยางลบ+กบเหลาดินสอ+ดินสอสี และอื่นๆ แล้วแต่จิตศรัทธาของเพื่อนๆของเรา
โดยเราจะจัดกิจกรรมดังนี้
กิจกรรมวันที่ 1 -วันที่13 เมษายน 54
- วันเดินทาง พวกเราจะต้องเดินทางออกจาก กทม. ตั้งแต่เช้า และจะถึงโรงเรียนบ้านแม่โขง ประมาณ 1 ทุ่ม
กิจกรรมวันที่ 2- วันที่ 14 เมษายน 2554
-วันที่มีแต่ให้ ในวันนี้ เราจะให้คนที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน แปลงร่างเป็นครูอาสาบนดอย สอน อะไรก็ได้ที่อยากสอนให้เด็กๆ ได้มีความรู้กัน และวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อ ให้เด็กๆและพวกเราได้ทำความรู้จักกัน
กิจกรรมวันที่ 3และ 4- วันที่ 15-16 เมษายน 2554
-วันอาสาสัมพันธ์ ในวันนี้ พวกเราจะเดิน เดิน เดิน.... ไปเยี่ยมเยือนชาวบ้าน บริเวณใกล้โรงเรียน ไป ศึกษาและเปลี่ยนวัฒนธรรม กัน ไปดู ไปรู้ ไปเห็น ว่าวิถีชีวิต คนบนดอยเป็นอย่างไร
-วันส่งมอบสิ่งของ เราจะทำการส่งมอบสิ่งของผ่านโครงการต่างๆ ที่พวกเราได้เตรียมไว้ให้ทั้ง 7 โรงเรียน ยอดด้อยพัฒนา ได้แก่โรงเรียน
1.โรงเรียนบ้านนาเกียน 293 คน
2.โรงเรียนบ้านแม่สะเต 122 คน
3.โรงเรียนบ้านอูตูม 211 คน
4.โรงเรียนบ้านผีปานเหนือ 112 คน
5.โรงเรียนบ้านใบหนา 121 คน
6.โรงเรียนบ้านห่างหลวง 149 คน
7.โรงเรียนบ้านแม่โขง 144 คน
กิจกรรมวันที่ 5-วันที่ 17 เมษายน 2554
-วันอำลาอาลัย เก็บเกี่ยวความทรงจำ วันนี้พวกเราต้องลงจากดอยกันแล้ว เพื่อเดินทาง เข้า กทม. พร้อมกับคำว่าคุณค่าของชีวิต ที่ครั้งหนึ่ง ในชีวิต เราได้มีความสุขกับการเป็นผู้ให้ ที่จะติดตัวไปกับเราและเก็บเป็นความทรงจำอันดี ที่ยากต่อการลืมเลือน ต่อคำว่า จิตอาสา เกิดขึ้นในใจเรา
ครูบนดอย สอนอะไร
วัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดการสื่อสารกันระหว่าง พวกเราและเด็กๆ บนดอย
มีเพื่อนๆบางท่าน สงสัยสอบถามกันมา แล้วพวกเราจะสอนอะไร เราไม่ใช่คุณครู เราไม่ได้มีอาชีพครู เราจะสอนได้ไหม ใน 1 วัน นี่คือคำถามที่มีถามกันบ่อยๆ ในกลุ่มพวกเรา ดังนั้น เราจะขอเป็นตัวแทนในตอบคำถามนี้
ถาม : สอนอะไร ?
ตอบ : อะไรก็ได้ที่อยากสอน อยากเล่า อยากสื่อสาร เพื่อทำความรู้จักกัน แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน กลุ่มเป้าหมายของเราคือเด็ก ชั้น ป1.-6 ดังนั้น เราจะสอนแบบเด็กๆ เพื่อทำการกลมกลืนกันไป ตามสไตล์ และความถนัดของแต่ละคน เช่น บางคนเพื่อนเรา เป็นคนคุยสนุกสนาน หรือมีความสามารถในการเล่าเรื่อง เราก็เตรียมนิทาน ที่น่าสนใจ ไปเล่าให้เด็กฟัง
บางคน เตรียมการสอน ภาษอังกฤษ ผ่านทางเสียงเพลง หรือการเล่าเรื่อง การทักทาย good morning good bye a b c d ….
บางคน เก่งเลข อาจจะนำทฤษฏีเลขแบบง่าย มาทำการสอน
บางคน เก่งในการเล่นเกม ก็เป็นหัวหน้าทีมเด็ก เล่นเกม เช่นเก้าอี้ดนตรี งูกินหาง
บางคน ชอบร้องเพลง ก็สอนเพลงให้เด็กร้องๆ
บางคน จะสอนเด็กๆ ร้อยลูกปัด ทำเครื่องประดับเช่นกำไร ,แหวน ก็เตรียมอุปกรณ์กันไป
บางคน จะสอนสุขอนามัย การล้างมือ การแปรงฟัน
สำหรับเรา จะขอสอนวิชาความฝันและจินตนาการ ยกตัวอย่างเช่น
วิชาความฝัน และจินตนาการ
1.เรื่องเล่าเกี่ยวกับทะเล
จะร้องเพลงน้ำทะเล แบบเด็กๆ ให้เขาฟัง
เนื้อร้อง : โอ้ทะเลแสนงาม น้ำเขียวครามสดใส แลเห็นเรือใบ แล่นอยู่ในทะเล หาดทรายงามเห็นปู ดูซิดูหมู่ปลา กุ้งหอย นานา แล่นอยู่ในทะเล
ก่อนอื่นจะถามเด็กๆว่า มีใคร รู้จัก ทะเลบ้าง ทะเลเป็นอย่างไร จากเนื้อเพลง เด็กๆ คิดว่ามีสัตว์อะไรบ้าง ลองวาดภาพ ตามความนึกคิด ตามจินตนาการ เราจะแจกดินสอสี ให้เด็กๆ ระหว่างนั้น เราจะเตรียมเสียงคลื่นซัดฝั่ง ให้เด็กๆฟัง จะค่อยอธิบาย รูปร่างลักษณะของสัตว์ในทะเล ให้ฟัง และให้เด็กๆ วาดภาพนั้น แน่นอน ถ้าไม่เคยเห็นทะเล หรือสัตว์เหล่านั้น มาก่อน อาจจะเป็นเรื่องยาก แต่เราแค่อยากให้เด็กๆ ลอง ใช้จินตนาการตัวเอง จากเรื่องเล่า และ การบรรยาย เมื่อวาดภาพ แล้ว
เราจะค่อยเตรียมเอารูปภาพสัตว์ทะเล รูปภาพทะเล มาให้ดู แล้วจะลองให้เด็กๆ วาดอีกครั้ง
แล้วเราจะเอาผลงานของเด็กๆ เหล่านั้น มาประดับที่ห้องของเขา พร้อมกันนั้น จะขออาสาสมัคร มาช่วยงานในการวาดภาพน้ำทะเล และทาสี บนผนังห้องเรียนของเขา ในอาคารเรียนหลังใหม่ เพื่อให้เด็กๆ เกิดความรู้สึกอยากเป็นเจ้าของจะได้ช่วยกันดูแลรักษา
2.เรื่องวิชาความฝัน
เราจะให้เด็กๆลองวาดภาพในอนาคต ว่าตัวเองอยากจะเป็นอะไร แน่นอน สิ่งที่เจอ อาจไม่มีใครตอบ เพราะไม่กล้า หรืออาย หรือไม่มั่นใจ หรือไม่รู้ ไม่ได้คิด หรืออาจมีคนตอบ เราจะยกตัวอย่าง ค่อยๆเล่าความฝัน ของเราเอง อยากจะเป็นอะไร เล่าเรื่องประสบการณ์ ว่าจากไม่มีอะไร มีแต่ความฝัน แต่ถ้าเรามีความฝัน และไม่ละทิ้งฝัน นั้น สักวันความฝันของเรา จะเป็นจริง จะค่อยพูดกระตุ้น ให้ เด็ก มีความฝัน ฝัน และฝัน เพื่อให้เด็กๆ เริ่มมีความมุ่งมั่น เพื่อให้เด็กๆ อยากเรียนต่อ พยายามเรียนต่อให้ได้ เรียนให้สูงที่สุด เท่าที่เขาสามารถ เพราะเราได้ดีเพราะการศึกษา เพราะการเรียนรู้ ดังนั้นอย่าหยุดเรียน ถ้ายังมีโอกาส และถ้ารู้ว่า เราสามารถส่งเสริม เขาจากตรงไหนได้ เขาขาดแคลน อะไร เราอาจจะหาทาง ให้ทุนเรียนหนังสือ แก่เด็ก ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจ เพราะเด็กบางคน มีความฝันที่จะเรียน แต่อาจติดที่ ไม่มีเงิน ภาระทางบ้าน
3.วิชาวาดรูป โดยไม่ใช้ยางลบ อาจจะกำหนด ให้เด็ก วาดภาพหน้าคน แต่ห้ามใช้ยางลบ แล้วดูซิว่า ใครจะสามารถแก้ไข ปัญหาสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างไร แล้วจะค่อยๆบอกกล่าว เรื่องทำไม ครูถึงไม่ให้ใช้ยางลบ เพราะตั้งใจจะสอนเด็กๆว่า ในชีวิตจริง เราจะเจออุปสรรคและปัญหา และสิ่งที่ผ่านมา เราลบไม่ได้ แต่เราต้องตั้งสติและหาทางแก้ไขปรับปรุง อย่ามัวแต่คร่ำครวญ เช่นเด็กอาจจะวาด ตาแล้วเบี้ยว จะดูว่ามีเด็กคนไหน ไหม ที่ดัดแปลง ภาพเบี้ยวๆ นั้น ทำให้เป็นแว่นตา หรือ เขาจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร
แต่ภาษาที่ใช้ เราจะใช้ภาษาแบบเด็กๆ
ดังนั้น จะ เห็นได้ว่า ไม่มีอะไรที่ยาก พวกเราทำได้อยู่แล้ว ขอการเตรียมตัวที่ดี พวกเราก็สามรถแบ่งปัน แลกเปลี่ยน สิ่งที่มีในตัวเรา หรือบางที่ ตัวเรานี่แหละ จะกลายร่างเป็นเด็กนักเรียนแทน เพราะเด็กๆ บางคน ก็รู้เยอะกว่าเราในบางเรื่อง เช่นเรื่องช้าง เรื่องธรรมชาติ การบวชต้นไม้ เพราะเขาจะใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่าเรา
เตรียมตัวเป็นครูอาสา ครั้งหนึ่งในชีวิต
· เปิดใจให้กว้าง พร้อมหัวใจอาสา กับการเป็นครูสอนเด็กดอย
· เตรียมฟิตร่างกายให้พร้อม เพราะระหว่างกิจกรรมอาจจะต้องเดิน เดิน และเดิน
· เตรียมของใช้ส่วนตัว เสื้อกันหนาว ถุงนอน/ผ้าห่ม แผ่นรองปูนอน ยาทากันยุง ไฟฉาย ยาสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว
· เตรียมใจ ฝึกอยู่ง่าย กินง่าย
· เตรียมของรางวัลเล็กน้อยๆติดมือมาฝากเด็ก ๆ อาจจะเป็น หนังสือวาดรูป หนังสืออ่านเล่น สีเทียน/สีน้ำ ฯลฯ
· เตรียมกิจกรรมการสอน ไม่ว่าจะเป็น วาดรูป ร้องเพลง แข่งการอ่านภาษาไทย เล่นเกม แล้วแต่ถนัดไม่จำกัดสาระวิชา